เนือหาด้านล่างนี้คุณalcoholikเป็นผู้เมตตาแปลมาให้ ต้องยกเครดิตทั้งหมดให้เค้านะครับ
---------------------------------------------------------------
ออกตัวก่อนเลยครับ ไม่ใช่เซียน ไม่ใช่เทพ แต่ถนัดอ่าน ebook อังกฤษ เลยพยายามถอดความมาให้เพื่อน ๆ อ่านกัน ดีไม่ดียังไง พี่ ๆ ช่วย ติชมด้วยนะครับ
แปลมาจาก Adsense Arbitrage Voodoo ครับ คาดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนสมาชิกครับ
ไม่ได้แปลหมดนะครับขี้เกียจเอาใจความสำคัญก็ละกัน
สารบัญ
1 Introduction to AAA
2 Keyword Research
3 จะเลือก keyword มาทำ Adsense อย่างไรดี
4 การทำ Landing Page
5 เพิ่ม Adsense CTR และราคาต่อคลิกให้ดีขึ้น
6 Email Marketing
7 Adsense Quality Score --- Coming Soon
ตอนที่ 1 Introduction to AAA
ก่อนอื่นฝากไว้สำหรับเพื่อน ๆ นะครับ เวลาอ่านหนังสืออะไร ไม่ว่าจะเป็นการสัมมนา หรืออะไรพยายามหาสมุดมาจดใจความสำคัญ หรือ เปิด notepad เขียนไว้ก็ได้ เพราะว่าคนเราจะจำได้แค่ 10% ของสิ่งที่เราอ่านมาเท่านั้น
เริ่มเรื่องครับ
เรื่องราวใน ebook เล่มนี้ไม่ใช่ step by step ที่ทำตามขั้นตอนแล้วจะได้เงิน แต่เป็นการให้และ get idea นำไปต่อยอดกับธุรกิจของเพื่อน ๆ เองนะ
ครับ พยายามนำเอาส่วนที่เหมาะกับวิธีทำงานของเพื่อน ๆ อันไหนไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำตามทั้งหมด พวกเราควรจะสร้างระบบทำเงินให้กับตัวเองโดยเฉพาะ
จำไว้ว่าอันที่ work สำหรับคนอื่น อาจจะไม่ work สำหรับเราก็ได้
มาว่ากันต่อ
Adsense-Arbitrage คืออะไร?
ตอบ คือการซื้อ traffic ราคาถูกและส่งไปยัง landing page ที่มี Adsense ราคาแพงติดอยู่ ถ้าเราสามารถซื้อ traffic ที่ราคา $0.10 และสามารถทำให้ คนจำนวน 30% ที่ส่งมาคลิกบน ads ราคา $0.70 ได้ เราก็จะสามารถได้เงินคืนเป็นสองเท่าต่อคนเข้าหนึ่งคน
คำนวณละเอียด (อันนี้ผมคิดเองเล่น ๆ)
สมมติ คนเข้าจะ ppc 1000 คน เสียค่าใช้จ่าย 1000*0.1 = 100$ !
คน 1000 คลิกบน ads 30% = 1000*30/100 =300 คน
300 คลิก คลิกละ 0.70 = 300*0.7 = 210$ !!!
จริง ๆ แล้วเราก็คงบอกไม่ได้ว่า Google นั้น OK กับการทำ Arbitrage หรือไม่ Google นั้น OK แต่ว่าพวกเราจะต้องทำหน้า landing page ให้
สวยครับ AAA-MM PRO ช่วยคุณได้!! (แอบโฆษณาเล็กน้อย)
Google ไม่ได้บอกว่า "ห้ามติด Adsense บนหน้าที่โฆษณาด้วย Adwords"
ในความเป็นจริง Google บอกว่า Adsense Arbitrage เป็น business model ที่ใช้ได้ !
แต่ GG นั้นเป็นห่วงเรื่อง user experience ครับ (ประสบการณ์ของผู้ใช้)
การซื้อถูกขายแพงนั้นมีมาแต่โบราณแล้วครับ Arbitrage ไม่ใช่สิ่งผิด แต่คนที่ทำมันแบบชุ่ย ๆ ตะหากทำให้มันพังครืนลงมา
ปัญหาก็คือ ความยากในการหา traffic มีคุณภาพ คนส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีทำให้มี CTR ดี ๆ บนหน้าที่ติด Adsense รวมถึงการที่ไม่รู้วิธี ทำ Adsense
Quality Score !! คนส่วนใหญ่ที่ทำ AAA นั้นส่วนใหญ่ทำแบบครั้งเดียวจบคือ เมื่อหยุดส่ง traffic จาก ppc รายได้ก็หยุดลงด้วย
คนทำ Adsense ส่วนใหญ่จึงทำเว็บ MFA ขึ้นมา (เว็บที่ทำขึ้นมาติด Adsense อย่างเดียว) โดยใช้พวก pagegen สคริปต์ปั่น ปั่นเว็บออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งพวกนี้นั้นไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ แต่ก็หา traffic ได้ จนกว่าจะถึงวันหมดอายุ (เว็บปั่นเมื่อคนใช้ไปเยอะ ๆ จะโดน de-index คือวันตายของเว็บปั่น)
บางคนก็ทำเว็บกึ่ปั่น มี article ดี ๆ บนเว็บเหมือนกัน (พวก hyper vre) เป็นต้น แต่ก็ยังไม่รู้วิธีปรับแต่งหน้าเพจสำหรับ Adsense ให้ดี (หรือสามารถ optimize หน้าเพจได้แต่ก็ไม่สามารถขึ้นอันดับดี ๆ ได้บน Search engine)
ซึ่งสิ่งที่เราจะทำคือคือการ จัดการกับเว็บเหล่านี้ที่คนอื่นทำซะ (ด้วย content network) โดยการต่อท่อไปยัง traffic เหล่านี้และส่งไปยังหน้า landing page ของเรา ซึ่งมีทั้ง Adsense และ aff (amazon, cj, linkshare)
อย่างที่พี่พรานได้บอกไปครับ ในหนังสือเล่มนี้ก็บอก Google จะไม่แบนเราถ้าเราส่ง traffic ไปยังหน้า landing page ที่มี ฤdsense ถ้าหน้านั้นมีคุณภาพสวยงาม ที่สร้าง user experience ที่ดี
เอาละร่ายมาเนิ่นนาน สมมติว่าเพื่อน ๆ มี market ที่จะทำ aaa อยู่แล้วในใจสักอันแล้วนะครับ แม้ว่าตลาดนั้นจะแข่งขันสูงก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการส่ง traffic มาสูง แต่มันก็จ่ายแพงสำหรับ adsense เช่นกัน ถ้าแข่งขันต่ำก็จ่ายน้อยกว่า แต่ก็หา traffic ได้ง่ายกว่าเช่นกันครับ
ถ้ายังไม่มี niche อยุ่ในใจ แนะนำเว็บนี้ครับ nicheaday.com จะส่ง niche ให้เราทุก ๆ วันวันละหนึ่ง market ครับน่าสนใจ แต่ไม่น่าทำ เพราะคาดว่าคนจะใช้เยอะแน่นอน ทางที่ดีขอจากพี่พรานดีสุดครับ (ผมยังไม่มีเลย ขอด้วยนะคร้าบพี่พราน)
หรือเข้าเว็บนี้ครับ ไป getidea เอานะ
http://www.AdsenseArbitrageVoodoo.com/ArbitrageIdeas.html
ตอนที่ 2 จะมาว่ากันถึงการทำ Keyword Research กันครับ
========================================
ตอนที่ 2 Keyword Research
ไม่พูดพล่ามทำเพลงมาว่ากันเลย
สมมติว่าเพื่อน ๆ จะทำการวิจัย keyword เกี่ยวกับตลาด weight loss นะครับ
ในหนังสือจะพูดเกี่ยวกับการใช้ wordtracker นะครับ ผมขอข้ามไปละกันเพราะว่ามันเสียตัง แต่ถ้าจะอยากให้ลงด้วยก็บอกกันได้นะครับ
วิธีฟรี ๆ ครับ อันนี้ผมคิดเอง เหอ ๆ
ก่อนอื่นไปที่กระทู้นี้ครับ พึ่งแจกเลย
http://forums.thaisem.com/index.php?topic=1576.0
โหลดตัว wordnet มาครับเพื่อเราจะใช้หาคำเหมือน synonyms อะไรเอามาให้หมด
ใส่ตัว weight loss ลงไปเพื่อหาคำเหมือน เพราะว่าคำความหมายเดียวกัน คนที่เข้าเว็บไซต์เพื่อหาข้อมูลอาจใช้คำต่างกันไปได้ครับ
จะได้คำประมาณนี้
Weight loss
Diet
Exercise
Obesity
Fitness
Overweight
Lose weight
Weightloss
Burn fat
Atkins
และอื่น ๆ
พยายามหาคำเหมือน คำใกล้เคียง synonym เอามาให้หมดนะครับ ได้มากี่คำเอาคำทีได้ไปหาต่อให้ได้เยอะ ๆ
คำที่ได้เหล่านี้คือ seed keywords นะครับ ให้ note keyword เหล่านี้ลงไป copy ไปใส่ notepad ก็ได้ครับ แล้วตั้งชื่อให้สื่อความหมายซะหน่อย
เช่น WeightLossSeedKeywords.txt
จากนั้นไปที่นี่ครับ สุดยอด keyword tool
http://www.adwords.google.com/select/KeywordToolExternal
ใส่คำแรกไปเลยครับคำว่า weight loss แล้วกด get more keywords!
รูปที่ 1
จากนั้นครับคลิกที่ add all 201 keywords เพื่อทำการเลือก keyword ทั้งหมด
รูปที่ 2
จากนั้นครับ ถ้ากลัวว่าหน้า page จะค้างนะครับ ให้ทำการ export to text file ลง notepad ไว้ก่อนก็ได้ แล้วตั้งชื่อว่า WeightLossGoogle.txt
ให้สื่อความหมาย
จากนั้นครับเอา kw ที่เกี่ยวกับ weight loss มาค้นต่อเช่น weight loss programs ค้นเสร็จ กด add all ... keywords อีก
จากนั้นมาค้นคำ weight loss เพื่อให้กลับมาหน้าเดิม (กด back ไม่ได้ครับ) จากนั้นค้นคำต่อ ๆ ไปที่เกี่ยวกับ weight loss ครับ
หลัง ๆ จะเริ่มซ้ำ ๆ และจำนวนคนค้นต่อ kw ก็น้อยลงครับ แต่อย่าหยุดครับ เราต้อง mass ครับ mass
ทีนี้พอเราขุดไป ๆ เราจะเจอคำที่มันไม่ค่อยเกี่ยว เช่น anna smith อะไรพวกนี้ก็เปิด notepad ครับ ใส่เป็น negative kw ไว้ครับ ไว้ใช้ภายภาคหน้า
และอย่าลืมครับ save ลง text file เป็นระยะ ๆ ครับ ใคร ram ไม่พอจังหวะนี้อาจค้างได้และอาจจะต้องทำใหม่ อย่าหาว่าไม่เตือนนะเอ้อ (ผมเป็นบ่อย)
จากนั้นพอขุดจนพอใจสำหรับคำว่า weight loss แล้วนะครับ save ใส่ text ตั้งชื่อให้สวยงามสื่อความหมาย จากนั้น
มาทำคำอื่น ๆ ต่อ Seed Keyword List ที่เราหามาแต่ต้น ทำแบบเดิมไปเรื่อย ๆ จนครบครับ
เอาละครับในหนังสือจริง ๆ แนะนำ wordtracker แต่ผมแนะนำ google ครับ เพราะ ฟรี อิอิ และถ้าใครอยากจะใช้ที่อื่นเพื่อความครบของ keyword
ก็แนะนำที่นี่ครับ http://www.digitalpoint.com/tools/suggestion ของ digitalpoint ซึ่งจะเป็น database ของ overture ครับ
ส่วนวิธีใช้บอกแค่พอสังเขปนะครับ ของ digitalpoint มันจะบอกจำนวนคน search ต่อวันด้วย ซึ่งเป็นปัญหาต่อการ copy ลง text ไฟล์
(ไม่มี export ด้วย)
ข้อแนะนำคือ copy ไปให้หมด แล้วใส่ excel ครับ แล้วเลือกแบบ paste special ครับ มันจะแยกเป็น column ให้เลย เราก็ copy มาใส่ text file
เราจะตัด keyword ซ้ำ ได้อย่างไร ?
คำตอบ excel ช่วยท่านได้
จริง ๆ เห็น tool แว้บ ๆ แถวนี้เหมือนกันนะครับ แต่เผื่อใครหาไม่เจอลองใช้วิธีนี้ดู
ก่อนอื่น copy keyword ทั้งหมดที่หาได้ใส่ excel โดยเว้นแถวที่หนึ่งไว้
คลิกที่คอลัมน์นั้น ๆ ที่วาง keyword ไว้ให้เป็นแถบดำ ๆ จากนั้นไปที่ Data -> Filter -> Advanced filter มันจะถามว่าให้บรรทัดแรกเป็น title
ก็ให้กด ok แล้วติ๊กเลือกที่ช่อง unique entries only แล้วกดปุ่ม ok ทีนี้มันก็จะกำจัดคำซ้ำให้เราละ
(ตอนนี้ใครที่ใช้ Google Keywords Tool คงไม่ค่อยมีปัญหาคำซ้ำมั้งครับ?)
ต่อไปเป็นขั้นตอนการจัดระเบียบ keyword list ของเรานะครับ
ก่อนอื่นทำการ sort ก่อนเลยโดยใช้ excel นี่แหละเลือก Data -> Sort -> Ascending จะทำให้ keyword ของเราเรียงตามตัวอักษรละครับ
และจากนั้นพอเราสำรวจดู kw ของเรา เราอาจจะเจอบางคำที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องสักเท่าไหร่ บางอย่างที่ทั่วไปเกิน หรือไม่ก็ไม่ต้องการ เช่น คำว่า recipe
ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับพวก cooking มากกว่า เอาคำพวกนี้ไปใส่รายชื่อ negative ไว้ครับ
ไม่ต้องไปตรวจดูทุกรายละเอียดก็ได้ครับ พยายามดูเร็ว ๆ เพราะรับประกันได้ว่าเยอะ พยายามสังเกตุคำสั้น ๆ เพราะว่ามักจะเป็นคำที่ทั่วไปเกินไป
ซึ่งจะทำให้ได้ traffic ที่ไม่ต้องการมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น คำว่า dog นี่ก็อาจจะมาโผล่ได้ (ทั้ง ๆ ที่เราไม่ต้องการ)
จากนั้นในขั้นต้อนการจัดระเบียบ kw list ก็ใช้ free tool นี้ครับ
http://tools.seobook.com/keyword-list-cleaner/stripper.php
วิธีใช้ก็ใส่คำที่เราจะตัดออกไปแล้วติ๊กช่อง “Strip Any Phrase Including a Bad Word:” จากนั้นคลิกปุ่ม “Clean Me Up Scotty!”.
เป็นอันเสร็จพิธี
เพิ่มเติม keyword list ของคุณ
หลังจากได้ทำการสำรวจรายนาม kw ของเราแล้ว เพื่อน ๆ อาจจะไปเจอคำแปลก ๆ ซึ่งจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับเราได้
อย่างเช่นเราอาจจะเจอคำว่า French Women Don't Get Fat
แต่คำๆ นี้แหละครับเป็นชื่อของหนังสือใน amazon
http://www.amazon.com/French-Women-Dont-Get-Fat/dp/1400042127
ซึ่งมันสามารถจะนำเราไปยังทิศทางใหม่ได้เลย ตอนนี้เราจะลองไปค้นหา keyword ใน amazon ดูดีมั้ยเพื่อเอาชื่อหนังสือมาเป็น keyword (เป็นต้น)
จากนั้นลองลงดูไปในหน้าสินค้าจะพบ link ที่มีชื่อว่า
Look at the sections on the page that say:
หรือ
Customers who searched for "french women don't get fat" also expressed interest in:
หรือไม่ก็
Customers who bought this item also bought:
ซึ่งนี่เป็นอีกสุดยอดวิทยายุทธ์ในการหา keyword เลยทีเดียว ถ้าเคยอ่านบทความของท่าน asiram กล่าวไว้เรื่อง mass keyword
"เอามันให้หมด"
และถ้าเรานำ kw เหล่านี้ไป search ใน GG keyword tool เราก็จะได้ kw เพิ่มเติมอีกเพียบ คิดว่าจะมีคน bid คำเหล่านี้มั้ยล่ะ? น่าลองนะ
แต่จากที่กล่าวมานี้ก็ไม่ได้หมายความว่าให้เพื่อนๆ ไปหากันอย่างบ้าคลั่งนะครับ (หรือควรทำดี?) แต่อย่างน้อยก็ให้อย่างคิดออกนอกกรอบในการหา kw
ซึ่งการคิดนอกกรอบนี่แหละจะทำให้เราขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้
แล้ว keywords อื่นที่เราจะหาได้ล่ะ สำหรับตลาดของ weight loss ลองดูว่ามียาลดน้ำหนักยี่ห้อไหนบ้างล่ะที่มีอยู่ในตลาด? เป็นร้อย หรือเป็นพัน?
ถ้าลอง search คำว่า Hydroxycut ใน wordtracker (เป็นตัวยาชื่อดังสำหรับการลดน้ำหนัก) จะได้ kw กลับมาถึง 164 kw เลยทีเดียว อันนี้แค่
ตัวยาเดียวนะ ถ้าเราหาจากตัวยาอื่น ๆ อีกก็มากมายมหาศาล
แล้วรูปแบบอื่นล่ะ สำหรับคนทั่วไปแล้วบางครั้งก็ไม่ได้ search ด้วยคำว่า weight loss กันหมด บางคนก็ search ด้วยคำว่า weight-loss หรือไม่ก็
weightloss ซึ่งบอกได้เลยว่าคำว่า weightloss เนี่ยมีปริมาณค้นหามหาศาลแน่นอน
ลอง replace คำว่า weight loss ด้วย weightloss .ใน list kw ของเราสิ รับรองว่าจะได้ชุด kw อีก 1 ชุดใหญ่ได้เลย
และนอกจากนั้นรูปแบบต่าง ๆ เช่น เอกพจน์ พหูพจน์ เติม s หรือคำผิดก็ใช้กัน
ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะค้นคำว่า dogs ก็อาจจะมีบางคนค้นคำว่า dog's
ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมคนเราถึงพิมพ์ผิดได้ขนาดนี้
สำคัญ>>> ขอให้แน่ใจว่าการเรียงคำของ keyword ถูกต้องถ้าจำเป็น ซึ่งอาจจะทำให้เราจ่ายคลิกมากขึ้นและได้ traffic น้อยลงได้
ยกตัวอย่างเช่น loss tips weight ควรเรียงใหม่เป็น weight loss tips ความหมายต่างกัน
บางครั้ง keyword tool จะให้ค่าที่เรียงตามลำดับตัวอักศร แต่ถ้าเราใช้คำพวกนี้ในแบบ exact และ phrase เช่น "loss tips weight" และ
[loss tips weight] คำพวกนี้จะไร้ค่าไปเลย เนื่องจากไม่มีใครที่จะ search ด้วยคำแบบนั้นหรอก
ไม่มีเครื่องมือไหนที่สมบูรณ์แบบครับ เครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดคือสมองของเรา ดังนั้นใช้มันซะ
เอาละสรุป ทำไมเราต้องหา kw เหล่านี้ เพราะ ยิ่งมีคู่แข่งน้อยเท่าไหร่เราก็จะต้องจ่ายเงินเพื่อสร้าง traffic น้อยเท่านั้น
ซึ่ง Adwords นั้นให้จ่ายได้ต่ำสุดถึง 0.01$ ซึ่งยังมีหลาย ๆ kw ที่จ่ายด้วยราคาเท่านี้แต่ก็ได้กลับมาคุ้มค่าอีกมาก
หลังจากนี้ผมจะพูดเกี่ยวกับ site-targeted campaigns ซึ่งคุณจะสามารถจ่าย CPM หรือ Cost Per Thousand Imp ได้ (ยังมีอยู่หรือเปล่าหว่า)
ในหลาย ๆ กรณีเราสามารถได้ traffic ด้วยราคาแค่ 0.01$ หรือต่ำกว่า! แต่เราก็จำเป็นจะต้องมีวิธีการที่ถูกต้อง (อ่านต่อไปครับ)